|
ในช่วงพิธีเปิด อุปทูตฯ กล่าวเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมราชบพิตร ในการพัฒนาประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยตามปรัฐชาเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการพัฒนาดินและน้ำ ทำให้พระองค์ได้รับการถวายพระเกียรติคุณจากสหประชาชาติในปี 2556 ซึ่งกำหนดให้ทุกวันที่ 5 ธันวาคมเป็นวันดินโลก และแนวทางดังกล่าวได้รับการสืบสานต่อตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึงปัจจุบัน อุปทูตฯ ได้กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลไทยในปัจจุบันที่มุ่งตอบสนองต่อสถานการณ์และความท้าทายของโลกในปัจจุบัน โดยจะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและเพื่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งจะเร่งการเจรจาการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ ในการนี้ อุปทูตฯ ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอิตาลีที่ดำเนินระหว่างกันยาวนานถึง 155 ปี และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในด้านทุกๆ ด้าน ตลอดจนความร่วมมือระหว่างกันภายใต้หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของอาเซียน-อิตาลี (Italy-ASEAN Development Partnership) รวมถึงขยายความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนกับอิตาลีภายใต้กรอบอาเซียน ทั้งนี้ ไทยสนับสนุนการลงทุนของอิตาลีในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทย ในสาขาที่อิตาลีมีความเชี่ยวชาญ อาทิ ด้านพลังงานสะอาด การพัฒนา Bio-Circular-Green Economy (BCG) และอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในโอกาสดังกล่าว นาง Alessandra Schiavo แขกเกียรติยศ ได้กล่าวสุนทรพจน์ชื่นชมความสำเร็จของการดำเนินความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย-อิตาลี ในสาขาต่าง ๆ ที่ได้มีพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ด้านการท่องเที่ยว ความร่วมมือด้านปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ความร่วมมือในระดับประชาชน ด้านวัฒนธรรม ความร่วมมือในกรอบอาเซียน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการค้าการลงทุน ที่ไทยถือเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของอิตาลีในอาเซียน และได้ชื่นชมความสำเร็จของภาคธุรกิจของไทยที่ได้ขยายตลาดการลงทุนในสาขาการค้า อาหาร และการโรงแรม ในอิตาลี ทั้งนี้ เห็นว่าการจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป จะช่วยส่งเสริมการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างกันเพิ่มยิ่งขึ้น |
